นโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่นและ Work From Home กับการรักษาพนักงานในปี 2025

หลังจากที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกหลายแห่งประกาศเรียกพนักงานกลับเข้ามาทำงานที่บริษัท และยกเลิก Work from home ก็มีทั้งเสียงที่สนับสนุนและเสียงต่อต้าน แต่ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ยังคงเดินหน้านโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น เพราะเชื่อว่า พนักงานคือผู้ใหญ่กันแล้ว บริษัทจะดูที่ผลงาน ไม่ใช่ตามติดเหมือนพนักงานเป็นเด็ก ๆ และเห็นถึงความสำคัญของสุขภาพจิตของพนักงาน และมองว่า WFH ปัจจัยสำคัญในการดึงดูดและรักษาพนักงานในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ Work-Life Balance วันนี้ ByteHR ผู้นำด้านโปรแกรม HR จะมาแจกแจงรูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่น กับการรักษาพนักงานในปี 2025 ให้ได้ลองนำไปปรับใช้กัน


wfh



รูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น

1. Hybrid Working : ผสมผสานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและที่บ้าน มีการกำหนดวันเข้าออฟฟิศที่แน่นอน ยืดหยุ่นตามความเหมาะสมของแต่ละแผนก

ตัวอย่างบริษัทที่ทำ Hybrid working มาจนถึงปัจจุบัน อย่าง Microsoft ก็อนุญาตให้พนักงานทำงานจากบ้านได้ 50% ของเวลา พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีรองรับอย่างต่อเนื่อง

2. Flexible Hours

   - เวลาเข้า-ออกงานที่ยืดหยุ่น

   - Core Hours สำหรับการประชุมและทำงานร่วมกัน

   - ให้อิสระในการจัดการเวลา


ประโยชน์ต่อการรักษาพนักงาน

ด้านคุณภาพชีวิต

- ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

- สร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

- เพิ่มเวลาให้ครอบครัว

- ลดความเครียดจากการเดินทาง


ด้านประสิทธิภาพการทำงาน

- เพิ่มผลิตภาพในการทำงาน

- ลดการขาดงานและการลาป่วย

- เพิ่มความคิดสร้างสรรค์

- สร้างความรับผิดชอบต่องานมากขึ้น


การนำไปปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ

การวางนโยบาย

1. กำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจน

   - ระบุวันและเวลาที่ต้องเข้าออฟฟิศ

   - กำหนดช่วงเวลาที่ต้องพร้อมติดต่อ

   - วางแนวทางการประเมินผลงาน


2. การจัดการทีม

   - สร้างระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

   - กำหนดตารางประชุมที่แน่นอน

   - พัฒนาเครื่องมือติดตามงาน


wfh3


การสนับสนุนทางเทคโนโลยี

- จัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็น

- ระบบการประชุมออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ

- แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกัน

- ระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูล


การวัดผลความสำเร็จ

ตัวชี้วัดหลัก

- อัตราการลาออกของพนักงาน

- ผลสำรวจความพึงพอใจ

- ประสิทธิภาพการทำงาน

- การบรรลุเป้าหมายของทีม


การติดตามและปรับปรุง

- รับฟังความคิดเห็นจากพนักงาน

- ประเมินผลนโยบายอย่างสม่ำเสมอ

- ปรับปรุงตามความเหมาะสม


ความท้าทายและการแก้ไข

1. การรักษาวัฒนธรรมองค์กร

   - จัดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์

   - สร้างช่องทางการสื่อสารไม่เป็นทางการ

   - กำหนดเวลาพบปะทีมอย่างสม่ำเสมอ


2. การบริหารผลงาน

   - กำหนด KPIs ที่ชัดเจน

   - ใช้ระบบติดตามงานที่มีประสิทธิภาพ

   - จัดประชุมติดตามงานสม่ำเสมอ


ข้อแนะนำสำหรับองค์กร : เมื่อเริ่มต้นทำนโยบายควรสำรวจความต้องการของพนักงานก่อน เพราะคุณอาจจะพบว่าพนักงานชอบมาที่ออฟฟิศมากกว่าที่คิดก็ได้ หลังจากร่างนโยบายแล้วก็ให้ลองใช้กับบางแผนกก่อน หลังจากนั้นก็รวบรวมข้อเสนอและปรับปรุงแผน และค่อยขยายไปใช้ทั้งองค์กร


ByteHR ขอทิ้งท้ายไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการทำงานหรือไม่ ก็ขอให้ดูที่ลักษณะธุรกิจและพนักงานเป็นสำคัณ เพราะการทำทุกอย่างตามกระแสนั้นไม่ได้การันตีว่าบริษัทของคุณจะประสบความสำเร็จหรือพนักงานจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ติดตามบทความความรู้เกี่ยวกับภาษี และการพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ที่ ByteHR หรือ

หากคุณต้องการเริ่มต้นใช้โปรแกรมสำหรับ HR  แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเริ่มอย่างไรและฟังก์ชันต่างๆจะตอบสนองความต้องการใช้งานของบริษัทคุณหรือไม่ ลองปรึกษา ByteHR ได้ฟรีทาง  02 026 3297 หรือติดต่อ sales@byte-hr.com


Khun Sea
เกี่ยวกับผู้เขียน
ซีมีประสบการณ์ทำงานที่หลากหลายกว่า 9 ปี ในด้านทรัพยากรบุคคล การสรรหาบุคลากร และการตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพ ปัจจุบันเธอกำลังสร้างประสบการณ์การทำงาน ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในภาคธุรกิจการบริการ โดยใช้ประโยชน์จากประสบการณ์ของเธอในการขับเคลื่อนกลยุทธ์นวัตกรรมทางการตลาด